เนรมิตพื้นที่กว่าสองไร่ในทำเล Super Prime Area สร้างสรรค์ออกมาเป็น Scope Langsuan (สโคป หลังสวน) คอนโดหรูระดับ Ultra Luxury ที่สุดของความร่วมมือในการออกแบบจากดีไซน์เนอร์และสถาปนิกระดับโลก กลายเป็นคอนโดที่สุดในทุกด้าน ทั้งห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง และการบริการ ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยขั้นสุด ทำให้คอนโดแห่งนี้เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงามที่ใครๆ ต่างต้องการเป็นเจ้าของเพื่อเป็นกุญแจสู่โอกาสที่ดีของชีวิตความเป็นอยู่และการลงทุนในอนาคต โดยเราจะพาคุณไป Walk-in ชมโครงการแห่งนี้ มาดูกันว่าคอนโด Scope Langsuan มีความน่าสนใจและซ่อนผลงานมาสเตอร์พีซอะไรไว้บ้าง
Highlights
- คอนโดมิเนียมหรูระดับ Ultra Luxury บนที่ดิน Freehold ที่ประมูลแพงที่สุดในไทยปี 2561 อยู่ที่ตารางวาละ 3.1 ล้านบาท
- ทำเลแถวหลังสวน-ชิดลม เป็นย่าน CBD ที่จัดว่าเป็น Super Prime Area ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถาบันการศึกษา ร้านอาหารชื่อดัง รถไฟฟ้า และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย
- โครงการออกแบบภายในโดยคุณ Thomas Juul-Hansen ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก และได้ KPF บริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก มาออกแบบสถาปัตยกรรมคอนโด
- คอนโดสูง 34 ชั้น ห้องพักมีเพียง 133 ยูนิต ทุกยูนิตมี Private Lift ให้ความเป็นส่วนตัว พร้อมบริการต่างๆ ระดับ 5 ดาว
- พื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,500 ตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใครในแบบลักซ์ชัวรี่
ข้อมูลโครงการ
คอนโด Scope Langsuan พัฒนาโดยบริษัท สโคป จำกัด ที่มีเจ้าของคือ คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ส่วนนิติบุคคลของโครงการคือ ACQUA เป็นทีมดูแลอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านโดยเฉพาะสำหรับโครงการนี้เท่านั้น สำหรับที่ดินของสโคป หลังสวน แห่งนี้เป็น Freehold ที่มีการประมูลสูงที่สุดในปี 2561 ในราคาทั้งหมดประมาณ 2,800 ล้านบาท
- สร้างเสร็จ: ปี 2023
- ที่ตั้ง: ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
- เจ้าของโครงการ: บริษัท สโคป จำกัด
- การออกแบบ: Kohn Pedersen Fox Associates (KPF)
- ออกแบบภายใน: Thomas Juul-Hansen
- ขนาดที่ดิน: 2-8-80 ไร่
- ประเภท: Freehold
- ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise สูง 34 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต
- ลิฟต์: เป็น Private Lift มีทั้งหมด 6 ตัว
- ที่จอดรถ: ระบบ Automatic Parking 145% จอดได้ 232 คัน
- ห้องพัก:
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 83-84 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ 153-162 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms ขนาดพื้นที่ 240 ตารางเมตร
- Penthouse ขนาดพื้นที่ 419-443 ตารางเมตร (มีเพียง 3 ยูนิต)
- ความสูงของฝ้าเพดาน: ห้องทั่วไปสูง 3.5 เมตร / Penthouse สูง 4 เมตร
- ราคาเริ่มต้น: 50 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ย/ตารางเมตร: 600,000 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง: 150 บาทต่อตารางเมตร
ทำเลคอนโด
ย่านหลังสวน หนึ่งในพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร หรือ Central Business District (CBD) ซึ่งถือเป็น Super Prime Area ทำเลไข่แดงที่มีมูลค่าแพงที่สุด และเป็นที่สนใจในการลงทุน ด้วยมูลค่าที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจของกรุงเทพฯ” ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Scope Langsuan (สโคป หลังสวน) คอนโดระดับ Ultimate Class ที่เปิดให้คุณเป็นเจ้าของแบบ Freehold และสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้ โดย Scope Langsuan ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองบนถนนหลังสวน ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังเส้นทางอื่นอย่าง ถนนสารสิน ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ และซอยต้นสนได้ ทำให้การเดินทางโดยรถส่วนตัวไปยังย่านต่างๆ สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นสยาม เพลินจิต พระราม 4 หรือสีลม เป็นต้น นอกจากนี้ยังใกล้กับทางยกระดับพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่านพระราม 4) ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วขึ้นด้วย ส่วนใครที่อยากเดินทางด้วยรถสาธารณะก็มีสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม อยู่ใกล้เพียง 140 เมตรเท่านั้น สามารถใช้เดินทางไปสู่ย่านอื่นๆ ได้สะดวกเช่นกัน
จากทำเลที่ตั้งของ สโคป หลังสวน ในย่านหลังสวนที่การคมนาคมสะดวกสบาย และถึงแม้จะรายล้อมไปด้วยตึกสูง แต่ทางโครงการก็ได้ออกแบบห้องพักที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้อย่างลงตัว โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ วิวฝั่งตะวันตก (ถนนราชดำริ) จะมองเห็นตึกสูงระฟ้ามากมาย ให้ความรู้สึกถึงการอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ขณะที่วิวฝั่งตะวันออก (ซอยต้นสน-วิทยุ) จะให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป โดยมีตึกสูงอยู่ไม่มาก แต่จะมองเห็นทิวทัศน์ที่ร่มรื่นเขียวชอุ่มของต้นสนจากสถานทูตสหรัฐอเมริกากับสถานทูตเนเธอร์แลนด์แทน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวิวฝั่งไหนก็มีความสวยงามในแบบเฉพาะตัว ซึ่งใครถูกใจวิวมุมไหนสามารถเลือกห้องที่มองเห็นวิวแบบที่ต้องการได้เลย
นอกจากวิวทิวทัศน์ และการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว บริเวณใกล้เคียงของสโคป หลังสวนยังเต็มไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานศึกษา สวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า อย่าง Central Embassy ห้างหรูใจกลางเมืองแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนม (400 เมตร), Gaysorn Amarin (600 เมตร) แหล่งรวมร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ เช่น Le Café Louis Vuitton เป็นต้น และ Central wOrld (650 เมตร) ห้างสรรพสินค้าขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ ที่มีครบไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น ร้านอาหาร คลินิกความงาม รวมไปถึงความบันเทิงต่างๆ ขณะเดียวกันก็มี Community Mall อย่าง Velaa Sindhorn Village (800 เมตร) แหล่งพักผ่อนหย่อนใจใจกลางหลังสวนที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการสามารถไปนั่งทานอาหารอร่อยๆ หรือจิบกาแฟเพลินๆ ได้เลย
สถานที่ใกล้เคียง
- โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ระยะทาง 110 เมตร
- The Mercury Ville ระยะทาง 200 เมตร
- Central Chidlom ระยะทาง 220 เมตร
- สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ระยะทาง 650 เมตร
- สวนลุมพินี ระยะทาง 1 กิโลเมตร
- สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระยะทาง 2 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ระยะทาง 3.3 กิโลเมตร
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร
การออกแบบคอนโด Scope Langsuan
คอนโด Scope Langsuan พัฒนาภายใต้แนวคิด Life at its Finest ที่ถือว่าการออกแบบเป็นหัวใจสำคัญของการพักอาศัย ดังนั้นผู้พัฒนาโครงการชื่อดังด้านอสังหาริมทรัพย์อย่าง Scope จึงจัดเต็มเรื่องการออกแบบคอนโด โดยร่วมงานกับดีไซน์เนอร์ตกแต่งภายในระดับโลกอย่างคุณ Thomas Juul-Hansen ที่เคยสร้างผลงาน ONE57 อพาร์ทเมนท์ที่ราคาสูงที่สุดในนครนิวยอร์ก (ข้อมูลสถิติในปี 2562) และบริษัทสถาปนิกระดับโลกอย่าง KPF (Kohn Pedersen Fox) ที่ออกแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นมากมายในหลายๆ ประเทศ เช่น อาคารศูนย์กลางการเงินโลก (SWFC) เมื่อทีมงานคุณภาพระดับนานาชาติมาร่วมทำงานด้วยกัน ทำให้คอนโด Scope Langsuan เด่นเรื่องสถาปัตยกรรมและการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน ที่มาพร้อมความหรูหราอย่างมีระดับท่ามกลางที่ดินทำเลทอง
การออกแบบภายในของคุณ Thomas จะให้ความสำคัญเรื่องขนาด ฟังก์ชัน และวัสดุ ดังนั้นภายในคอนโดเราจะเห็นการตกแต่งที่ไปในโทนคลีนๆ และใช้สีของวัสดุหรือสีของเฟอร์นิเจอร์มาตัดกับพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ในพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่ รวมถึงห้องพักก็เน้นการออกแบบ Functional Design ที่ใช้งานได้หลากหลายด้วยความพิถีพิถัน ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ Lobby มีขนาดกว้าง และฝ้าเพดานสูงถึง 7 เมตร เป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึก “น้อยแต่มาก” ใช้วัสดุโทนสีเรียบๆ และจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น ประดับโคมไฟแฮนเมดที่ดีไซน์โดยคุณ Thomas อยู่ติดเพดาน ทำให้พื้นที่นี้มีความเรียบหรูสมกับเป็นคอนโดลักซ์ชัวรี่ มาพร้อมการบริการที่น่าประทับใจ นี่แหละคอนโดในฝันของใครหลายๆ คน
พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของ Scope Langsuan
Scope Langsuan มีพื้นที่ส่วนกลาง 2,500 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 4 และ 34 เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว แต่ละพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยให้ความสำคัญเรื่องการใช้งานเป็นหลัก สำหรับที่นี่ลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางจัดงานไพรเวทได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ส่วนการบริการสุดพิเศษของทางคอนโด จะมีบริการขนสัมภาระตลอด 24 ชั่วโมง และมีบริการทำความสะอาดห้องพัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มากไปกว่านี้ทางคอนโดมักมีจัดงาน Workshop ที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
มาต่อกันที่ส่วนของที่จอดรถเป็นระบบ Automatic Parking ที่รองรับรถของลูกบ้านและแขกได้อย่างครบถ้วน รวมถึงรองรับรถยนต์ได้หลายประเภท พร้อมระบบเทคโนโลยีป้องกันฝุ่นด้วย Electron Sensory โดยลูกบ้านสามารถใช้บริการ Valet (พนักงานนำรถมาให้และนำรถไปจอดให้) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่รอรถที่บริเวณ Lobby หรือ Waiting Lounge ก็มีพนักงานนำรถมาส่งให้คุณ จบเรื่องการจอดรถแล้ว ทีนี้มาดูกันว่าส่วนกลางมีอะไรบ้าง บอกเลยว่าส่วนกลางบางส่วนนั้นยังไม่ค่อยเห็นที่โครงการไหนมาก่อน
ส่วนกลางไฮไลต์ที่เด่นไม่เหมือนใคร
ส่วนกลางของสโคป หลังสวน มีหลากหลายกันเลยทีเดียว แต่คอนโดระดับ Ultra Luxury แน่นอนว่าต้องมาพร้อมส่วนกลางดีๆ ที่ออกแบบมาไม่ซ้ำกับใคร และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัย โดยเราได้คัดส่วนกลางเด่นๆ ของคอนโด Scope Langsuan มาไว้ให้แล้ว
ส่วนกลางชั้น 2
ในยุคที่เทรนด์ Pet Parent กำลังมาแรง หลายๆ คนที่มีน้องสัตว์เลี้ยงก็ย่อมหาที่พักอาศัยที่รองรับการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งที่ Scope Langsuan เป็นคอนโด Pet Friendly ที่ให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจำกัดยูนิตละ 2 ตัว และส่วนกลางของชั้น 2 ที่รองรับเหล่าสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านก็คือ Pet Care มีบริการรับฝากสัตว์เลี้ยงระหว่างวัน และบริการอาบน้ำตัดขน ภายใน Pet Care มีอุปกรณ์ดูแลกับของเล่นครบครัน นอกจากนี้ใครอยากพาน้องหมามาเดินเล่น ทางคอนโดก็มีพื้นที่สวนสีเขียวสำหรับเดินเล่นโดยเฉพาะที่ด้านหน้าคอนโด บอกเลยว่าที่นี่เขาเตรียมพื้นที่ให้เหล่าสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านได้ดีมากๆ
ต่อกันที่ส่วนกลางในชั้นเดียวกันอย่าง Guest Quarter ไฮไลต์เด่นของ Scope Langsuan ที่ไม่ค่อยพบเจอที่คอนโดไหน สำหรับส่วนกลางนี้เป็นหอพักเมด หรือที่พักคนดูแลเจ้านาย ลูกบ้านคนไหนที่มีแม่บ้านประจำตัว ต้องการให้พักอยู่ใกล้ๆ เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งาน ก็เช่าห้องพักเมดที่ชั้นนี้ได้เลย ที่สำคัญห้องพักมีขนาดห้องที่พอเหมาะ และดีไซน์สวยสมกับเป็น Scope
ส่วนกลางชั้น 3
ชั้นนี้จัดเต็มเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง เริ่มจาก Private Storage พื้นที่เก็บของ ซึ่งมีหลายขนาดให้เลือก ลูกบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นจับเพราะห้องเก็บของมีเครื่องควบคุมอุณหภูมิและเก็บความชื้น ส่วนกลาง Private Storage ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี Garment Storage สำหรับเก็บเสื้อผ้า และ Wine Storage ห้องเก็บไวน์ โดยค่าเช่าส่วนกลางนี้จ่ายเป็นรายเดือน
Dressing Room ห้องแต่งตัวที่มีโซนทำผม ทำเล็บ และสระผมให้เสร็จสรรพ ลูกบ้านสามารถเรียกช่างประจำตัวมาที่ห้องนี้ได้ ถัดไปเป็น Theatre Room ห้องดูหนังที่มีที่นั่งของแบรนด์ Cineak ให้มาถึง 25 ที่นั่ง พร้อมระบบเสียง B&W Series CT 800 Dolby Atmos รอบ 360 องศา เพิ่มความสนุกในการดูภาพยนตร์มากขึ้น ทางคอนโดจะจัดโปรแกรมดูหนังในแต่ละเดือนมาให้ นอกจากนี้ลูกบ้านสามารถปิดเป็นไพรเวทเพื่อจัดงานอีเวนต์ก็ได้เช่นเดียวกัน
เอาใจสายนักดนตรีกันหน่อยกับห้อง Music Room มีเครื่องดนตรีให้เล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลอง เปียโน กีตาร์ และคีย์บอร์ด ของแบรนด์ชื่อดังอย่าง Boss, Roland, Wilhelm Schimmel เป็นต้น ตัวห้องทำผนังเก็บเสียงอย่างดี สามารถเล่นดนตรีได้มันส์ๆ หมดกังวลเรื่องเสียงรบกวนผู้อื่น
ส่วนกลางชั้น 4
สาย Active ต้องถูกใจกับ Fitness Centre ซึ่งที่นี่จัดเต็มกับเครื่องออกกำลังกายด้วยแบรนด์ระดับโลกจากอิตาลีอย่าง Technogym มีทั้ง เครื่อง Cardio, เครื่อง Weight Training, ห้อง Running Studio มีเครื่องวิ่งของแบรนด์ Woodway และพื้นที่เล่นโยคะ ทั้งหมดของส่วนกลางฟิตเนสนี้ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็ได้ เอาใจสายรักสุขภาพกันสุดๆ
ส่วนกลางสำหรับผู้ใหญ่ที่ว่าปังแล้ว ส่วนกลางของเด็กก็ปังไม่แพ้กัน กับ Play Room อย่างแรกที่ชวนว้าวก็คือขนาดของห้องที่ให้มาขนาดใหญ่ มีของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ มีห้องน้ำเด็ก บริการไอศกรีมฟรี และที่ชวนสะดุดตาคือเก้าอี้ย่น (Togo Chair) ไซส์เด็ก ของ ลิน โรเซ่ต์ (Ligne Roset) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูระดับโลกที่เตรียมมาไว้ให้เด็กๆ โดยเฉพาะ
ส่วนกลางชั้น 34
ชั้นบนสุดของคอนโด พื้นที่ส่วนของ Sky Lounge มี Dining Room ห้องรับประทานอาหาร ตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์ Welles Glass Long Chandelier 30 จากแบรนด์ Gabriel Scott ให้มื้ออาหารของคุณเป็นมื้อสุดแสนพิเศษที่รายล้อมไปด้วยแสงสวยจากแชนเดอเลียร์และดื่มด่ำไปกับวิวเมืองยามค่ำคืนที่สวยงาม แต่ความพิเศษของห้องนี้มีมากกว่านั้น โดยจะมีห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทำครัวครบเทียบเท่าระดับภัตตาคาร ซึ่งลูกบ้านสามารถเรียกเชฟมาทำอาหารแบบส่วนตัวได้เลยที่ส่วนกลางนี้
นอกจากนี้บริเวณด้านนอกมี Cigar Room ที่เตรียมมาให้สำหรับลูกบ้านที่สูบซิการ์โดยเฉพาะ พร้อมกับที่นั่งชมวิวมุมสูงที่สุดของคอนโด เป็นบรรยากาศที่นั่งได้ชิลๆ สบายๆ เป็นส่วนกลางที่ออกแบบมาเอาใจสายสูบซิการ์ได้ดีเลยทีเดียว
พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ
นอกจากไฮไลต์ส่วนกลางที่พูดถึงไปแล้ว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ที่สโคป หลังสวน ยังมีส่วนกลางอื่นๆ ที่ให้มาแบบพื้นฐาน แต่การตกแต่งนั้นก็ยังคงความ Luxury ที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก โดยมีส่วนกลางดังนี้
พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนอย่าง Club Lounge (ชั้น 3)มีที่นั่งมากมาย พร้อมเคาน์เตอร์บาร์ที่เสิร์ฟกาแฟยี่ห้อดีๆ ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วยังมีห้อง Conference ห้องประชุมขนาดใหญ่ และ Study Room ให้ได้ใช้งาน ในชั้นเดียวกันก็มี Thermal Baths มีทั้งห้องซาวน่า บ่อน้ำร้อน บ่อน้ำเย็น ซึ่งบ่อน้ำร้อน-เย็นนี้ จะจำกัดการใช้งานไม่เกิน 4 คนต่อครั้ง และมี Wellness Suite ห้องสำหรับทำสปาโดยเฉพาะ
ต่อกันที่ชั้น 4 ส่วนกลางที่ยังไม่ได้พูดถึงก็คือ Temperature Control Pool สระว่ายน้ำระบบ Fresh Water ที่ไม่ส่งผลต่อการระคายเคืองต่อผิว ถัดขึ้นไปชั้นบนสุดมีพื้นที่ Sky Lounge (ชั้น 34) ที่มีเคาน์เตอร์บาร์เช่นเดียวกัน ยังมีส่วนของ Outdoor อย่าง Sky Terrace พร้อมที่นั่งและพื้นที่ทำบาร์บีคิว ท่ามกลางวิวสวยๆ ในตัวเมืองกรุงเทพ ทั้งหมดนี้ลูกบ้านใช้เป็นพื้นที่จัดงานส่วนตัวหรือปาร์ตี้ได้
ด้านนอกคอนโดของชั้นล่างสุดมี Pavilion สำหรับนั่งเล่นหรือทำอาหารมื้อเล็กๆ ได้ พร้อมการตกแต่งด้วยต้นไม้พันธุ์ไม้สีเขียวล้อมรอบ และบ่อปลาคาร์ฟที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ลูกบ้านมานั่งชิลๆ ชมวิวธรรมชาติพร้อมรับประทานอาหารได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับส่วนกลางของ Scope Langsuan ที่นี่ค่อนข้างให้ Facilities มาเยอะพอสมควร ถ้าคุณได้อ่านส่วนกลางทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าทาง Scope ให้ความสำคัญกับการใช้งานเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้านให้ได้มากที่สุด รวมถึงการออกแบบที่ประดับเฟอร์นิเจอร์สมกับเป็นคอนโดระดับ Ultra Luxury ถือได้ว่าส่วนกลางทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งนี่จะเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของคุณลงตัวมากขึ้น
รูปแบบห้องพัก
มาดูห้องพักของ “สโคป หลังสวน” กันบ้าง สำหรับห้องพักของโครงการนี้เปิดขายแบบ Fully Fitted กับ Fully Furnished เริ่มกันที่ Full Fitted คือการตกแต่งห้องมาให้เพียงบางส่วน โดยทางโครงการจะให้ชุดเครื่องครัวจากแบรนด์เยอรมัน เช่น เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และเตาอบจากแบรนด์ Gaggenau, ลิ้นชักกับอุปกรณ์เครื่องครัวของแบรนด์ Bulthaup, อ่างล้างจานของ Blanco, เครื่องล้านจาน Bosch, ตู้เย็น และตู้เก็บไวน์แบรนด์ Sub zero ใช้เทคโนโลยีจากนาซ่าพร้อมระบบกรองอากาศช่วยเก็บผลไม้กับผักได้นานขึ้น
ขณะที่สุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้แบรนด์ TOTO กับ Axor โดยแบ่งเป็นโซนแห้งกับเปียก ตู้เสื้อผ้าของแบรนด์ Lema จากอิตาลี ส่วน Fully Furnished คือการตกแต่งห้องมาแบบพร้อมเข้าอยู่ โดยทางโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์จาก Chanintr ซึ่งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเป็นแบรนด์นอกนำเข้า เช่น Barbara Barry, Louis Poulsen และ Minotti เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รับรองว่าห้องของคุณจะไม่เหมือนใครแน่นอน
ภายในห้องจะถูกออกแบบมาให้ดูโปร่งโล่ง ด้วยฝ้าเพดานสูง 3.5 เมตร สำหรับห้องปกติ ส่วนห้อง Penthouse เพดานสูงถึง 4 เมตร นอกจากนี้ยังเน้นหน้าต่างกระจก Double Glazed Insulated Low-E บานใหญ่ ทำให้มองเห็นวิวได้ดี รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และกระจกมีความหนา 3.3 เซนติเมตร ช่วยกันความร้อนทำให้ห้องเย็นเร็ว และกันเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างดี มีม่าน Black-Out ที่ช่วยกันแสงแดดทำให้ห้องมืดสนิทเหมาะกับเวลาต้องการพักผ่อน
นอกจากนี้ยังมีระเบียงห้องแนวยาวที่สามารถออกไปสูดอากาศ หรือนั่งเล่นชมวิวได้ด้วย ในส่วนวัสดุพื้นห้องถูกออกแบบมาให้เหมาะกับฟังก์ชันใช้งาน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ห้องนอนเป็นพื้นไม้ Engineered ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ, ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และระเบียงเป็นพื้นหิน Travertine ที่ช่วยให้ความเย็นสบาย และห้องครัวใช้เป็นหิน Quartz ซึ่งกันน้ำซึม และทำความสะอาดง่าย ถือเป็นห้องพักที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานและอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ ทีนี้มาดูประเภทของห้องกันต่อ
1 Bedroom
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 83-84 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบและตกแต่งด้วยโทนสีขาว-น้ำตาลผสมกับแสงธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เมื่อออกมาจาก Private Lift จะพบกับโถงทางเดินที่ซ่อนฟังก์ชันตู้เก็บของเอาไว้ มีห้องครัวขนาดกำลังดีพร้อมไอส์แลนด์ตรงกลาง บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ สำหรับพื้นที่ส่วนตัวมีการแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัวพร้อมแยกโซนแห้ง-เปียก ตู้เสื้อผ้าแบบเปิด และโต๊ะเครื่องแป้งกระจกทรงโค้งออกแบบโดยคุณโทมัส ยูล-ฮันเซนที่ให้ความรู้สึกละมุนอบอุ่นเพิ่มมิติมูดของห้อง และใครที่กลัวว่าห้องไซส์นี้จะอึดอัดไหมบอกเลยว่าห้อง 1 Bedroom กว้างมากสามารถอยู่คนเดียว หรือเป็นคู่ได้สบายๆ
2 Bedrooms
ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 153-165 ตารางเมตร ห้องนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถอยู่ได้หลายคน ตัวห้องตกแต่งเป็นโทนสีขาว-ครีมให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และอบอุ่น เมื่อผ่านโถงทางเดินเข้ามาจะนำไปสู่พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ตรงกลางที่สามารถออกแบบตกแต่งได้ตามต้องการ ห้องครัวมีฟังก์ชันทำเป็นครัวแบบเปิดหรือปิดได้ ส่วนห้องนอนมีถึง 2 ห้องคือห้อง Master Bedroom กับห้อง Secondary Bedroom ที่ออกแบบมาเหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ สำหรับห้องน้ำมีความพิเศษนอกจากแบ่งโซนแห้ง-เปียกแล้ว ยังมีห้อง Sexy Bathroom เพิ่มประสบการณ์การอาบน้ำแบบพรีเมี่ยมด้วยอ่างแช่น้ำ และม่านอัตโนมัติ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งยังคงมาพร้อมกระจกทรงโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ของโครงการนี้ เป็นยังไงกันบ้างกับห้อง 2 Bedroom บอกเลยว่าห้องใหญ่มากอยู่เป็นคู่ หรือครอบครัวได้เลย
3 Bedrooms
ห้อง 3 Bedrooms ขนาด 240-247 ตารางเมตร สำหรับห้องขนาดนี้ถือเป็นห้องพิเศษที่มีอยู่ไม่กี่ยูนิต เท่านั้น ซึ่งเริ่มตั้งแต่ชั้น 27-29 (ชั้นละ 1 ยูนิต) ด้วยขนาดห้องที่สูงโปร่ง และกว้าง ทำให้บรรยากาศมีความโฮมมี่ สบายๆ ไม่อึดอัด โดยห้อง 3 Bedrooms มีความคล้ายกับห้อง 2 Bedrooms ทั้งเรื่องการออกแบบ และการตกแต่งไม่ว่าจะเป็นโซนพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ รวมไปถึงห้องนอน และโต๊ะเครื่องแป้งที่ยังคงคอนเซ็ปต์กระจกโค้ง 2 ชิ้น แต่ความพรีเมี่ยมของห้องนี้คือ ห้องนอนที่ 3 ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นได้ เช่น ห้องดูหนัง ห้องทำงาน เพิ่มเติมความพิเศษอีกระดับด้วยห้อง Mate ที่ถูกออกแบบมาเป็นสัดเป็นส่วนโดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้อง
Penthouse
ห้อง Penthouse ขนาด 436 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่และอยู่สูงที่สุดของโครงการ มีความพิเศษคือมองเห็นวิวได้สบายๆ ที่สำคัญมีเพดานสูงถึง 4 เมตร ทำให้ห้องดูสูงโปร่ง และกว้าง ให้ความรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งมีเพียงแค่ 3 ยูนิตเท่านั้น เริ่มต้นที่ชั้น 31-33 โดยห้อง Penthouse ถูกออกแบบให้มีพื้นที่นั่งเล่นหลายจุด สามารถตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีระเบียงขนาดใหญ่สำหรับชมวิว นั่งพักผ่อน และปลูกต้นไม้ได้ด้วย เรียกได้ว่ามีฟังก์ชันครอบคลุมทุกการใช้ชีวิต สามารถอยู่กันเป็นครอบครัว ได้สบายๆ เหมือนอยู่บ้านหลังหนึ่งเลย
ราคาห้องพัก
ห้องพัก Scope Langsuan ราคาเริ่มต้นที่ 50 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 600,000 บาทต่อตารางเมตร ยกเว้นห้อง Penthouses ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 150 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันตัวโครงการสโคป หลังสวน ขายไปแล้วถึง 80% เหลือเพียงห้อง 1 Bedroom กับ 2 Bedrooms เท่านั้น (ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเดือนตุลาคม 2024) เป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จของโครงการที่สะท้อนให้เห็นว่า Scope Langsuan เป็นคอนโดน่าอยู่ที่เพียบพร้อมทั้งด้านทำเล การออกแบบ ฟังก์ชันการใช้ชีวิตในแบบลักซ์ชัวรี่ ที่เหมาะกับการพักอาศัยและการลงทุนในระยะยาว
สรุป
คอนโด Scope Langsuan พัฒนาภายใต้แนวคิด Life at its Finest ที่ประกอบไปด้วย 3 หลักสำคัญในการสร้าง เพื่อตอบโจทย์การพักอาศัยสำหรับคนยุคใหม่ มีดังนี้
1.ทำเล: คอนโดสโคป หลังสวน ตั้งอยู่บนทำเลชิดลม-หลังสวน ซึ่งเป็นทำเลที่มีราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เนื่องจากทำเลนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของกรุงเทพ รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานทูต อาคารสำนักงานต่างๆ สถานศึกษาชั้นนำ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกด้านของชีวิต แล้วที่สำคัญมูลค่าที่ดินในย่านนี้สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทำเลของคอนโด Scope Langsuan นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแล้ว ยังนำไปสู่ผลตอบแทนที่จะได้จากราคาที่ดินที่ทวีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต
2.การออกแบบ: เรื่องการดีไซน์ของคอนโด Scope Langsuan นั้นถือว่าอยู่ในระดับเวิลด์คลาส โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน เพราะเกิดจากความพิถีพิถันในการออกแบบของ Thomas Juul-Hansen และ KPF ดีไซเนอร์และบริษัทสถาปนิกระดับโลก โดยออกแบบมาในแบบ Luxury ที่คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก เน้นใช้งานได้จริง รวมถึงการคัดสรรวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ ก็มาจากแบรนด์ชั้นนำทั้งสิ้น
ห้องพักของสโคป หลังสวน แบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ พื้นที่แต่งตัว ล้วนออกแบบมาเป็นอย่างดี มีหลายฟังก์ชันให้ใช้งาน ตัวห้องจะเน้นความโปร่งโล่ง ติดกระจกรอบด้าน มองเห็นวิวได้เต็มชัด วัสดุทำจากเกรดพรีเมี่ยม และที่สำคัญที่เห็นได้ชัดคือจะมีพื้นที่เก็บของหลายจุด ถูกใจคนที่ชอบสะสมของกันสุดๆ
3.การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก: การบริการของที่นี่อยู่ในระดับ 5 ดาว ที่พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีนิติบุคคลจากบริษัท ACQUA ที่ดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านโดยเฉพาะ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็ให้มาแบบจัดเต็ม มาพร้อมคุณภาพและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต สรุปส่วนกลางทั้งหมดของคอนโด Scope Langsuan มีดังนี้
ชั้น | ส่วนกลาง |
ชั้น 1 | Auto Parking, EV Charger, Mailbox, Lobby, Pavilion, Dog Yard |
ชั้น 2 | Pet Care, Guest Quarter |
ชั้น 3 | Club Lounge, Private Storage, Theatre Room, Dressing Room, Music Room, Thermal Baths, Wellness Suite |
ชั้น 4 | Temperature Control Pool, Play Room, Fitness Centre |
ชั้น 34 | Sky Lounge, Dining Room, Cigar Room, Sky Terrace |
จบไปแล้วกับการรีวิว Scope Langsuan คอนโดระดับ Ultra Luxury เชื่อว่าทุกคนน่าจะเห็นความอลังการ ความจัดเต็มทั้งส่วนของห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง การออกแบบ และการบริการ ที่รวมอยู่ในพื้นที่สองไร่นี้ ต้องบอกเลยว่าคุณภาพนี้เหมาะสมกับราคาคอนโด และยังอยู่ในย่านทำเลทองที่ไม่ว่าจะไปไหนก็สะดวกสบาย สำหรับที่นี่เป็นอีกหนึ่งคอนโดที่ไม่ได้มีดีแค่ความหรูหราตามราคาที่สูง แต่ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่พร้อมตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน ใครสนใจอยากเช่า-ซื้อ-ขาย คอนโดสโคป หลังสวน เข้ามาใช้บริการได้ที่ ENNXO