PropertyTrend

รีวิว The Issara Sathorn (คอนโด ดิ อิสสระ สาทร)

เนรมิตพื้นที่แห่งความสุข ใช้ชีวิตเหนือระดับที่ ดิ อิสสระ สาทร (The Issara Sathorn) คอนโดวิวสวยระดับ Luxury ของบริษัทชื่อดังด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างชาญอิสสระ ออกแบบโดย A49 สถาปนิกระดับโลก ที่คัดสรรทุกองค์ประกอบของคอนโดออกมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ให้ได้ใช้ชีวิต “อิสสระ” ครบทุกด้านในฉบับสุดเพอร์เฟกต์

โดย ENNXO จะพาคุณไป Walk-in ชมโครงการดิ อิสสระ สาทร คอนโดที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายปี 2023 ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า มาเจาะลึกความน่าสนใจของคอนโดแห่งนี้กัน

The Issara Sathorn

Highlights

  • คอนโดบนทำเลศักยภาพอยู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นย่านสาทร-สีลม, นางลิ้นจี่, พระราม 3, พระราม 4 และใกล้ทางด่วน
  • ห้องพักยูนิตน้อย เพียงแค่ 270 ยูนิต และให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านด้วยการทำทางเดินแบบ Single Loaded Corridor
  • เปิดประสบการณ์ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศวิวแม่น้ำเจ้าพระยา วิวบางกระเจ้า และวิวเมือง
  • คอนโดมีที่จอดรถแบบ Auto Parking 100% หมดปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ
  • รูปแบบห้องพักมีหลากหลาย Layout และเป็นแบบ Flexible Area สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

ข้อมูลโครงการ

  • สร้างเสร็จ: 2023
  • ที่ตั้ง: ถนนจันทน์เก่า แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จังหวัดกรุงเทพฯ
  • เจ้าของโครงการ: บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • การออกแบบ: บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด
  • ขนาดที่ดิน: 1-2-60 ไร่
  • ประเภท: Freehold
  • ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 270 ยูนิต
  • ลิฟต์: ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 4 ตัว แบ่งเป็น Low Zone ชั้น 1,2,10-20 กับ High Zone ชั้น 1,2,21-36 และลิฟต์ Service 1 ตัว
  • ที่จอดรถ: ระบบ Auto Parking 100% ชั้น 2-9
  • ห้องพัก:
    • 1 Bedroom ขนาด 32.66-47.40 ตร.ม.
    • 1 Bedroom Plus ขนาด 37.21-37.62 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms ขนาด 58.96-107.88 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms Plus ขนาด 88.14-88.81 ตร.ม.
    • 3 Bedrooms ขนาด 93.44-110.74 ตร.ม.
    • Penthouse ขนาด 134.88-188.76 ตร.ม.
  • ความสูงของฝ้าเพดาน: ห้องทั่วไปสูง 2.7 เมตร / Penthouse สูง 3.1 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น: 5.9 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ย/ตารางเมตร: 190,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง: 75 บาทต่อตารางเมตร (จ่ายล่วงหน้าก่อนปีหนึ่ง)
  • ค่ากองทุน: 800 บาทต่อตารางเมตร (จ่ายครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)

ดูประกาศ ขาย เช่า ซื้อ คอนโด ดิ อิสสระ สาทร (The Issara Sathorn)

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าคอนโดดิ อิสสระ สาทร เป็นโครงการของชาญอิสสระ บริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในโครงการที่ประสบความสำเร็จสุดๆ ก็คือ ศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น Baba Beach Club จังหวัดภูเก็ต, คอนโด บลู ไดมอนด์ ชะอำ-หัวหิน, คอนโด ดิ อิสสระ เชียงใหม่ เป็นต้น

สำหรับการออกแบบคอนโดยังได้บริษัท A49 สถาปนิกระดับตำนานที่สร้างผลงานสถาปัตยกรรมสุดล้ำมานับไม่ถ้วน เช่น BU Diamond, True Digital Park West, Gateway Ekamai, One Bangkok, Cloud 11 เป็นต้น จากการจับคู่ของสองบริษัทชื่อดังที่มีฝีมือระดับโลกนี้ ได้มาร่วมสร้างและดีไซน์จนเกิดเป็นคอนโดดิ อิสสระ สาทร ที่พร้อมให้คุณใช้ชีวิตเหนือระดับในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ

สัมผัสมนต์เสน่ห์ Luxury Urban & Nature พร้อมออกแบบชีวิตได้อย่างอิสระ

ENNXO

The Issara Sathorn Condo

ดิ อิสสระ สาทร มาในคอนเซปต์ “Luxury Urban & Nature การผสมผสานธรรมชาติสู่ความเป็นเมือง” โดดเด่นด้วยตัวอาคารคอนโด High Rise 36 ชั้น ตั้งสูงตระหง่านท่ามกลางมนต์เสน่ห์ในย่านถนนจันทน์ ด้วยการดีไซน์อาคารในโทนสีทอง สีน้ำตาล และสีเงิน โดยไล่เฉดสีทำให้แต่ละทิศของอาคารมีโทนสีเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ Facade ยังออกแบบเป็น Grid ใช้เส้นแนวนอนแนวตั้งช่วยเสริมให้อาคารดูเรียบหรูมากยิ่งขึ้น

“UNITE ALL SIDES OF YOUR LIFE…ใช้ชีวิตอิสสระ ให้สุดในทุกด้าน” แนวคิดโครงการที่ต้องการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เพื่อการใช้ชีวิตสะดวกสบาย ครบครันในทุกเรื่อง ประกอบกับสัมผัสความสวยงามของบรรยากาศวิวแม่น้ำเจ้าพระยา วิวบางกระเจ้า วิวเมือง และวิวสะพานคู่ขนานพระราม 9 ได้ทุกช่วงเวลา

วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวสะพานคู่ขนานพระราม 9
วิวเมือง
ก่อน
หลัง

ทำเลคอนโด

ดิ อิสสระ สาทร ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองสาทร สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลัก ทั้งถนนจันทน์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนเย็นอากาศ เพื่อเข้าสู่ย่านสำคัญๆ อย่างสาทร สีลม พระราม 3 พระราม 4 และยังใกล้กับทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนศรีรัช อีกด้วย ซึ่งสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกสบาย แถมยังไม่ต้องกังวลว่าถ้ากลับดึกจะไม่มีที่จอดรถ เพราะที่นี่มีที่จอดรถ 100%

แต่หากใครไม่สะดวกขับรถยนต์ ก็มีรถสาธารณะผ่านหน้าคอนโด และมีสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี กับ MRT ลุมพินี ที่เป็นสถานีใกล้คอนโดมากที่สุด แต่ก็ยังถือว่าระยะทางค่อนข้างไกลออกไปมาก ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะมีบริการ Shuttle Bus รับส่งลูกบ้านไปยังสถานีรถไฟฟ้าด้วยนะ

สำหรับรอบๆ คอนโดส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยที่ไม่สูงมากจึงไม่บดบังทัศนียภาพ ยกเว้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคอนโดที่อาจถูกบังทัศนียภาพของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบ้างเล็กน้อยจากคอนโดสูง เอาเป็นว่าใครชอบวิวแบบไหน สามารถเลือกรูปแบบห้องที่มองเห็นวิวที่ต้องการได้เลย เพราะทางคอนโดมีหลากหลายแปลนห้องที่น่าสนใจ

แผนที่แสดงถนนรอบคอนโด

ทำเลคอนโดอยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ของใจกลางเมือง จึงมีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถาบันการศึกษาชื่อดัง สวนสาธารณะ และร้านอาหารชื่อดังที่มีให้เลือกมากมายทั้งสตรีทฟู้ด คาเฟ่ บาร์ ที่กระจายอยู่ตามเส้นถนนจันทน์, Suhring ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์, Soufflé And Me ร้านอาหารและขนมหวานของเชฟไก่ ธนัญญา, ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่ามเชียงใหม่ สาขานางลิ้นจี่ และข้างๆ คอนโดยังมีร้านอาหารเก่าแก่อย่างครัวสาธรอีกด้วย

หากเดินไปอีกแค่ 200 เมตร จะเจอกับ Market Place คอมมูนิตี้ที่รวมทุกอย่าง ทั้งร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ธนาคาร, โฮมโปร, สถาบันเสริมความงาม, คลินิกทำฟัน, ยิม หรือใครที่อยากจะไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ ก็มีคาเฟ่ดังๆ มากมาย เช่น ร้าน Pacamara Coffee Roasters, ร้าน Starbuck เป็นต้น และในกลางปีนี้ก็จะมี Villa Market มาเปิดข้างๆ คอนโดที่สามารถเดินไปได้เพียงใช้เวลาไม่กี่นาที ยิ่งช่วยให้มี Community Space รอบคอนโดมากยิ่งขึ้น

แผนที่แสดงสิ่งอำนวยความสะดวก

สถานที่ใกล้เคียง

  • Market Place นางลิ้นจี่ ระยะทาง 200 เมตร
  • Makro สาทร ระยะทาง 850 เมตร
  • Garden International School ระยะทาง 1 กิโลเมตร
  • The Up Rama 3 ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลพระราม 3 ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ระยะทาง 3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ระยะทาง 3.3 กิโลเมตร
  • สวนลุมพินี ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร

4 จุดเด่นพื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของดิ อิสสระ สาทร มาในสไตล์มินิมัล “เรียบง่ายแต่หรูหรา” และยังใช้เทคโนโลยีระบบ Smart Touchless ช่วยลดการสัมผัสในพื้นที่ส่วนกลาง โดยเอ็นโซ่จะพาคุณมาดู 4 จุดเด่นส่วนกลางของคอนโดดิ อิสสระ สาทร ว่าทางโครงการมีความพิถีพิถันและใส่ใจลูกบ้านในด้านใดบ้าง มาดูกันเลย

Auto Parking ระบบจอดรถอัจฉริยะ 100%

หากพูดถึงจุดเด่นแรกสุดของคอนโดแห่งนี้ก็ต้องเป็นที่จอดรถระบบ Auto Parking แบบ 100% ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ จอดรถซ้อนคัน จอดรถตากแดด การเฉี่ยวชน และที่สำคัญไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ เพราะเพียงแค่แตะคีย์การ์ดและนั่งรอในพื้นที่ OTW ระบบก็จะนำรถของคุณไปจอดไว้ให้หรือนำรถลงมาให้คุณ

ทั้งโครงการเป็นที่จอดรถประเภท Tower Parking ใช้ระบบ Robot Dolly และระบบเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี ออกแบบเจ้าเดียวกับ Auto Parking ของ The EmQuartier แต่เป็นระบบรุ่นใหม่ที่อัปเดตมากกว่า แถมมีถึง 3 ทาวเวอร์ไว้ให้บริการ ส่วนเวลาในการรอรถใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที มากไปกว่านั้นสำหรับลูกบ้าน Penthouse จะได้รับสิทธิ์ที่จอดรถถึง 3 สิทธิ์ ถัดมา 2 สิทธิ์สำหรับลูกบ้านสองห้องนอน ถือว่าดีสุดๆ

เรียกได้ว่า Auto Parking ของที่นี่เป็นไฮไลต์เด็ดของทางโครงการที่ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน แถมยังช่วยลดมลพิษภายในตึก แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องวางแผนเรื่องเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากอาจมีลูกบ้านใช้งานพร้อมกันหลายคน ทำให้ต้องเพิ่มเวลาในการรอรถมากขึ้น

พื้นที่ OTW
บริเวณทางเข้าออกรถ
ก่อน
หลัง

สวนสีเขียวจัดเต็มถึง 4 แห่ง

เติมเต็มความสดชื่นให้กับชีวิต โดยทางคอนโดจะมีสวนสีเขียวกระจายไว้ตามพื้นที่ต่างๆ ในคอนโด เริ่มจากชั้นแรก The Park สวนสีเขียวขจีในพื้นที่ 500 ตารางเมตร เพิ่มความร่มเย็นด้วยสระน้ำพุ ต้นไม้ใหญ่ และมีโซนสนามเด็กเล่น ศาลา โดยเน้นการตกแต่งด้วยไม้สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้ดี เป็นพื้นที่ไว้นั่งชิลๆ ในช่วงยามเย็น

The Park ภาพรวม
The Park โซนสนามเด็กเล่น
ก่อน
หลัง

หากต้องการชมวิวสวยๆ ขยับขึ้นมาที่ชั้น 29 จะมี The Green พร้อมที่นั่งสำหรับอาบแดด ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า หรือหากชมวิวยังไม่หนำใจขยับขึ้นมาที่ชั้น 33 เป็น The View ในคอนเซปต์ Floating Forest มีพื้นที่ให้นั่งชมวิวและศาลานั่งเล่น บอกเลยว่าวิวตอนเช้าที่ว่าสวยแล้ว วิวตอนกลางคืนยิ่งสวยไม่แพ้วิวพัทยาเลย

พื้นที่นั่งตรง The Green
ที่นั่งตรง The Green
ก่อน
หลัง

ขอกระซิบว่าส่วนกลางชั้นนี้เสมือนกับเป็นสวนส่วนตัวของห้องพักชั้น 33 เลยก็ว่าได้ เพราะมีเพียงแค่สองยูนิตเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ 100% เพราะลูกบ้านชั้นอื่นยังสามารถเข้ามาใช้งานได้อยู่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้บนชั้นดาดฟ้ายังมี The Herb พื้นที่ปลูกผัก และจุดชมวิวสูงสุดของคอนโดอย่าง The Horizon อีกด้วย เห็นได้ว่าทางคอนโดใส่ใจเรื่องธรรมชาติเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติท่ามกลางวิถีชีวิตแบบสังคมเมือง

สวนบริเวณ The View
พื้นที่ The View
พื้นที่นั่งตรง The View
ก่อน
หลัง

พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับสาย Healthy

สายออกกำลังกายต้องมาที่ชั้น 29 กับ The Sky Gym มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครันของแบรนด์ Matrix และมุมเล่นโยคะ พร้อมกับชมวิวไปในตัว แต่ส่วนกลางนี้อาจจะเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับจำนวนลูกบ้าน แต่หมดห่วงไปได้เลย เพราะใกล้ๆ คอนโดก็มี Anytime Fitness, Fitness24Seven ที่ช่วยตอบโจทย์การออกกำลังกายมากขึ้น

พื้นที่ The Sky Gym
บริเวณ The Sky Gym
The Sky Gym มุมโยคะ
ก่อน
หลัง

ใกล้ๆ กับยิมยังมี The Water สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 22 เมตร ลึก 1.3 เมตร มีโซนเด็กและ Water Jets ส่วนข้างๆ มี The Therapy หรือสระน้ำร้อนบำบัด ที่ให้อารมณ์เหมือนกับแช่ออนเซ็น ช่วยให้คุณผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะว่ายน้ำออกกำลังกายแล้ว ยังได้สัมผัสวิวตึกระฟ้า และรับความสดชื่นจาก The Green เป็นชั้นที่ชาร์จพลังได้ดีสุดๆ หากใครสาย Active กลางแจ้ง ทางคอนโดก็เตรียมพื้นที่ไว้ให้แล้วที่ Active Sky บนชั้น Rooftop

สระว่ายน้ำ The Water
พื้นที่ The Water
พื้นที่ The Therapy
เครื่องบอกอุณหภูมิน้ำ
ก่อน
หลัง

พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ

ยังมีส่วนกลางอื่นๆ ที่จะมาเพิ่มความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต อย่าง The Game มาพร้อมเครื่องเล่นเตะบอล โต๊ะพูล โต๊ะฮอกกี้ ให้เล่นสนุกๆ แต่เสียดายที่ห้องนี้เล็กไปหน่อย จุคนได้ไม่เยอะ แต่ถ้าอยากสังสรรค์กับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ในชั้นเดียวกันถัดมาเป็น The Space พื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดปาร์ตี้สังสรรค์ได้ รวมถึงใช้นั่งเล่น นั่งทำงาน โดยห้องนี้สามารถเปิดออกไปสู่โซน Outdoor รับวิวสวนสีเขียวจาก The Green ได้ด้วยนะ

ห้องเล่นเกม
พื้นที่ The Space
พื้นที่ The Space
ก่อน
หลัง

ส่วนของ Lobby ที่ชั้น 1 สร้างความประทับใจแรกได้ดี ด้วยการออกแบบจากมืออาชีพอย่าง Studio Chemistri ทำเป็นฝ้าเพดานสูง ตกแต่งโทนสีอบอุ่น เหมาะกับการนั่งพักผ่อนด้วยเช่นกัน ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ Mailbox นอกจากนี้ลูกบ้านคนไหนที่ต้องการพื้นที่เก็บของ ทางคอนโดมีบริการ Store Me อยู่ที่ชั้น 2 โดยตัวห้องเก็บของใช้ระบบปลอดภัย Digital Door Lock

มาพูดถึงในส่วนของลิฟต์กันบ้าง ที่นี่มีระบบจับเซนเซอร์ สามารถใช้มือปัดขึ้นลงแทนการกดปุ่มลิฟต์ เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับยุคสมัยนี้จริงๆ เพราะจะมาช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการสัมผัสเชื้อโรคได้ดีเลยทีเดียว

Lobby
Mailbox
 ระบบจับเซนเซอร์ ปัดขึ้นลงลิฟต์
ก่อน
หลัง

รูปแบบห้องคอนโด

ห้องพักของคอนโดขายแบบ Fully Fitted โดยจะให้เครื่องปรับอากาศ, ประตูห้องเป็น Digital Door Lock ของ Samsung, ชุดครัว Hob & Hood กับซิงค์ล้างจาน ของ Teka และสุขภัณฑ์ห้องน้ำแบรนด์ TOTO แบ่งโซนเปียก-โซนแห้ง ซึ่งทุกห้องจะดีไซน์แบบ Flexible Area ที่สามารถยืดหยุ่นเรื่องพื้นที่ รองรับความต้องการของแต่ละไลฟ์สไตล์ในทุกเจเนอเรชั่น และลดพื้นที่ระเบียงมาเพิ่มเป็นพื้นที่ด้านในเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุด พร้อมให้คุณบริหารชีวิตได้ตามที่ต้องการ

รายละเอียดส่วนครัว
รายละเอียดห้องน้ำ
ก่อน
หลัง

ภายในห้องจะเน้นพื้นที่โปร่งโล่ง ด้วยการทำฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ในขณะที่ห้อง Penthouse สูง 3.1 เมตร และเน้นทำบานหน้าต่างแบบกระจกเต็มบาน รับแสงธรรมชาติและวิวได้เต็มที่ ซึ่งตัวกระจกเป็น Low-E ช่วยลดความร้อน 30% นอกจากนี้ตัวห้องเป็นครัวเปิด และยังมีผนังเป็น Double Wall ช่วยลดปัญหาเสียงรบกวนอีกด้วย ราคาตัวห้องปัจจุบันเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาท แต่ละห้องเป็นอย่างไรมาดูกัน

ห้อง 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus

ห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 32.66-47.21 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวก่อน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ตามความต้องการได้ โดยส่วนของห้องนอนจะถูกแบ่งด้วยบานกระจกสไลด์ ซึ่งเป็นห้องที่ดูกะทัดรัด แบ่ง Layout ชัดเจน ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่อาศัยอยู่คนเดียวหรืออยู่เป็นคู่ ในกรณีที่คุณต้องการห้อง 1 Bedroom ในพื้นที่ที่กว้างมากขึ้น ทางคอนโดก็มีห้องขนาด 47.40 ตารางเมตร ด้วยเช่นกัน แต่ห้องแปลนนี้จะมีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น (ชั้น 10-27, 30-32)

ห้อง 1 Bedroom
ห้อง 1 Bedroom
ห้องพักแบบ 1 Bedroom
ห้อง 1 Bedroom
ก่อน
หลัง

ห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 37.21-37.62 ตารางเมตร แบ่ง Layout เหมือนกับ 1 Bedroom แต่จะเพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ติดกับหน้าต่าง และตัวกั้นห้องนอนจะเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ในการทำงาน หรือทำเป็นห้องเล็กๆ เพิ่มเติม

ห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus
ห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus
ห้องพักแบบ 1 ห้องนอนพลัส
ห้อง 1 Bedroom Plus
ห้องพัก 1 Bedroom Plus
ก่อน
หลัง

ห้อง 2 Bedroom กับ 2 Bedroom Plus

ห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 58.96-107.88 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนของห้องครัว ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้สบายๆ มีพื้นที่ระเบียงกว้างกว่าห้องแบบ 1 Bedroom และมีสองห้องน้ำ ซึ่งห้องตัวอย่างที่ทางเราชมไปมีห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ขนาดห้องน้ำเล็กไปหน่อย ถ้าใครชอบห้องน้ำใหญ่ๆ หรือชอบห้องนอนกว้างๆ ก็มีห้องหลากหลายแปลนให้เลือกตามความชอบในแบบสองห้องนอนและสามห้องนอนอีกด้วยนะ

ห้อง 2 Bedrooms
2 Bedrooms
2 Bedrooms
ห้อง 2 Bedrooms
2 Bedrooms
2 Bedrooms
ก่อน
หลัง

ห้องพักแบบ 2 Bedrooms Plus ขนาด 88.14-88.81 ตารางเมตร สำหรับห้องแปลนนี้ความพิเศษคือคุณจะได้วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยากับบางกระเจ้า สำหรับห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งส่วนของครัวที่ทำเป็นบาร์นั่งได้สบายๆ รวมถึงพื้นที่นั่งเล่นที่จัดเต็มเรื่องเฟอร์นิเจอร์ สามารถทำเป็นโซนโต๊ะนั่งรับประทานอาหาร เป็นพื้นที่รับแขก หรือพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว แถมยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ดีไซน์ตามความชอบ นอกจากนี้ส่วนของห้องน้ำมีสองห้อง เพิ่มอ่างจากุชชี่มาให้ โดยห้องตัวอย่างที่ทางเราชมไปนี้มีห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำ และพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งเป็นห้องใหญ่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสุดๆ

ห้องพัก 2 Bedrooms Plus
ห้อง 2 Bedrooms Plus
ห้องแบบ 2 Bedrooms Plus
2 Bedrooms Plus
ห้องแบบ 2 Bedrooms Plus
ห้องน้ำ 2 Bedrooms Plus
ห้อง 2 Bedrooms Plus
ก่อน
หลัง

ห้อง Penthouse

ห้องพักแบบ Penthouse ขนาด 134.88-188.76 ตารางเมตร ห้องแปลนนี้มีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น เริ่มต้นที่ชั้น 33-36 (ชั้นละ 2 ยูนิต) ห้องน้ำเริ่มต้น 3 ห้องน้ำ พร้อมกับอ่างจากุชชี่ สำหรับห้องที่ทางเราได้ไปชมนี้เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของ Penthouse ซึ่งจุดเด่นก็คือมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถดีไซน์ห้องครัว ห้องนอน พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทำงานได้แบบจัดเต็มตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน และยังมีห้องเก็บของมาให้โดยเฉพาะ นอกจากห้องจะกว้างแล้วยังมาพร้อมวิวมุมสูง ที่ไม่ว่าจะช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็รับวิวสวยๆ ไปแบบเต็มๆ

ห้อง Penthouse
ห้องแบบ Penthouse
ห้อง Penthouse
ภายในห้อง Penthouse
ก่อน
หลัง

ราคาห้องพัก

ห้องพักคอนโดดิ อิสสระ สาทร ราคาห้องเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 190,000 บาทต่อตารางเมตร โดยปัจจุบันทางโครงการขายไปได้แล้วถึง 60% (ข้อมูลอัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 2567) นอกจากค่าห้องแล้วยังมีค่าส่วนกลาง 75 บาทต่อตารางเมตร (จ่ายล่วงหน้าก่อนปีหนึ่ง) และค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร (จ่ายครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)

สรุป

ภาพรวมดิ อิสสระ สาทร

ทำเล - คอนโดโดดเด่นเรื่องทำเล เพราะอยู่ใจกลางเมือง เดินทางง่าย มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งเหมาะกับคนวัยทำงาน ครอบครัวใหญ่ที่ชื่นชอบชีวิตแบบสังคมเมือง แน่นอนว่าที่คอนโดดิ อิสสระ สาทร ก็เป็นอีกหนึ่งแรร์ไอเทมที่ไม่ควรพลาด และที่สำคัญสภาพแวดล้อมรอบคอนโดค่อนข้างดี ไม่มีเสียงรบกวนหรือตึกเพื่อนบ้านมาบดบังทัศนียภาพ

พื้นที่ส่วนกลาง - ทางคอนโดจัด Facility พื้นฐานมาครบครัน โดยเน้นพื้นที่สีเขียว จุดชมวิวหลายชั้น แต่ส่วนกลางบางส่วนนั้นมีพื้นที่เล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับจำนวนลูกบ้าน ส่วนที่จอดรถต้องชื่นชมเลยจริงๆ เพราะเป็นที่จอดรถ 100% ที่หาแบบนี้ได้ค่อนข้างยากในโครงการอื่นๆ

ห้องพัก - สำหรับที่นี่ห้องพักเริ่มต้นที่ชั้น 10 เรื่องของวิวที่ได้จึงค่อนข้างดี ภายในห้องโปร่งโล่ง มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน ให้ความเป็นส่วนตัว และนอกห้องยังเป็นทางเดินแบบ Single Loaded Corridor ยิ่งชั้นสูงๆ ยูนิตเริ่มน้อย ก็ยิ่งให้ความเป็นส่วนตัวเข้าไปใหญ่

หากใครกำลังตามหาคอนโดใจกลางเมืองที่เด่นเรื่องทำเล ห้องพักดี วิวสวย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้ามพลาดกับดิ อิสสระ สาทร หากอยากจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนนั้นคอนโดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย มาดำเนินการเช่า-ซื้อ-ขาย คอนโดกันได้เลยที่ ENNXO


ดูประกาศ คอนโด The Issara Sathorn บน ENNXO
© PropertyTrend (powered by ENNXO) 2024